จำหน่ายไม้อัดปาติเกิล (Particle Board) ราคาโรงงาน ขนส่งถึงหน้างาน เหมาะสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์
ไม้อัดปาติเกิล (Particle Board)
สวัสดีครับ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ไม้อัดอีกประเภทหนึ่งคือ ไม้อัดปาติเกิล ซึ่งเป็นไม้อัดที่คนนิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะมีราคาถูกและสามารถหาซื้อได้ง่าย ตามร้านไม้ทั่วๆไปได้ด้วย
ปาร์ติเกิลบอร์ด (particleboard) หรือบางประเทศมีการเรียกว่า ชิปบอร์ด (chipboard) เป็นไม้วิศวกรรมประเภทหนึ่ง สร้างมาจากเศษชิ้นไม้ เช่นชิปไม้ หรือแม้แต่ขี้เลื่อย มาประสานกันโดยสารเคมีและนำมาทำการบดอัดด้วยความดันสูง ปาร์ติเกิลบอร์ดจัดเป็นไฟเบอร์บอร์ดชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับเอ็มดีเอฟ และฮาร์ดบอร์ด แต่ปาร์ติเกิลบอร์ดมีส่วนประกอบจากชิ้นไม้ที่ใหญ่กว่า
ปาร์ติเกิลบอร์ดเมื่อเปรียบเทียบกับไม้จริงและไม้อัด จะมีราคาที่ถูกกว่า ความหนาแน่นมากกว่า และมีเนื้อไม้ที่มีลักษณะเดียวกันทั้งชิ้น ขณะที่ความแข็งแรงของปาร์ติเกิลบอร์ดจะน้อยกว่า โดยเมื่อนำมาใช้งานนิยมนำวีเนียร์มาติดเป็นผิวหน้าเพื่อแสดงลายไม้ หรือบางครั้งนิยมนำมาทาสีตกแต่ง
ปาร์ติเกิลบอร์ดนั้นเป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบาสุดในบรรดาไฟเบอร์บอร์ด ซึ่งความแข็งแรงก็น้อยกว่าเอ็มดีเอฟ และฮาร์ดวูด ข้อด้อยอีกอย่างของปาร์ติเกิลบอร์ดคือ ตัวเนื้อไม้มีการขยายตัวได้ง่ายเนื่องจากความชื้นโดยเฉพาะไม้ที่ไม่ได้มีการทาสี หรือว่าเคลือบซีลเลอร์ อย่างไรก็ตามปาร์ติเกิลบอร์ดนิยมนำมาใช้ในงานไม้ที่ใช้ในตัวอาคาร แทนที่งานภายนอกอาคารที่มีความชื้นสูง ปาร์ติเกิลบอร์ดนำมาใช้ตามเคาน์เตอร์ นำมาใช้เป็นฉนวน
ประวัติของปาร์ติเกิลบอร์ดนั้น ถูกคิดขึ้นมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงที่ขาดแคลนไม้ โดยมีการใช้ครั้งแรกในโรงงานที่เมืองเบรเมน ประเทศเยอรมนี โดยได้นำเศษไม้ ขี้เลื่อย หรือชิปไม้ จากโรงงานมาทุบรวมกันให้มีขนาดเล็ก และนำมาอัดใส่สารเคมีให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดเมื่อเปรียบเทียบกับไม้จริงและไม้อัด จะมีราคาที่ถูกกว่า ความหนาแน่นมากกว่า และมีเนื้อไม้ที่มีลักษณะเดียวกันทั้งชิ้น ขณะที่ความแข็งแรงของปาร์ติเกิ้ลบอร์ดจะน้อยกว่า โดยเมื่อนำมาใช้งานนิยมนำวีเนียร์มาติดเป็นผิวหน้าเพื่อแสดงลายไม้ หรือบางครั้งนิยมนำมาทาสีตกแต่ง
ขนาดของไม้อัดปาติเกิล
ความหนา (มิลลิเมตร) |
กว้าง*ยาว (เมตร) |
น้ำหนัก (กิโลกรัม) |
9 |
1.2*2.4 |
19 |
12 |
1.2*2.4 |
25 |
16 |
1.2*2.4 |
31 |
19 |
1.2*2.4 |
37 |
25 |
1.2*2.4 |
48 |
28 |
1.2*2.4 |
53 |
|
|
|
กรรมวิธีการผลิตแผ่นชิ้นไม้อัด ( Particle board )
กรรมวิธีการผลิต เริ่มจากขั้นตอนการเตรียมชิ้นไม้ เมื่อได้ไม้ท่อนมาจะถูกส่งเข้าเครื่องตัดเป็นชิ้นแต่ถ้าเป็นเศษไม้จะส่งเข้าเครื่องตัดชิ้นไม้อีกแบบหนึ่ง หลังจากนั้นจะถูกส่งเข้าไปเก็บในยุ้งเก็บชิ้นไม้ชื้นและส่งไปอบด้วยเครื่องอบชิ้นไม้จนเหลือความชื้นประมาณ 2-3% จึงถูกส่งไปเก็บในยุ้งชิ้นไม้แห้งและส่งต่อไปเข้าเครื่องคัดขนาด (AIRSEPARATOR) ชิ้นไม้ที่ใหญ่เกินขนาดจะถูกส่งเข้าเครื่องย่อยชิ้นไม้ (KNIFFLINK FLAKER)ให้ได้ขนาดที่ต้องการก่อนถูกส่งผ่านไปยุ้งพักและเครื่องชั่งควบคุมน้ำหนัก ส่วนชิ้นไม้ที่ได้ขนาดพอดีก็ถูกส่งผ่านไปยังเครื่องชั่งควบคุมน้ำหนักจากนั้นถึงขั้นตอนการผสมกาวเข้ากับชิ้นไม้แล้วผ่านเข้าเครื่องทำแผ่นชนิดพิเศษ MATHFORMING MACHINE เมื่อได้แผ่นชิ้นไม้ที่ทำเรียบร้อยแล้วจะเคลื่อนตัวบนสายพานเหล็กใต้เครื่องทำแผ่นไปเข้า MENDE PRESS ซึ่งจะถูกอักระหว่างลูกกลิ้งร้อนตัวใหญ่ (HEATED PRESS DRUM)กับตับลูกกลิ้งอัดเล็ก (PRESSURE ROLLS) ต่อเนื่องกันไปที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสซึ่งจะได้ PARTICALEBOARD ที่มีความยาวต่อเนื่องกันไปการผลิต PARTICLE BOARDจะเกิดฝุ่นอันเนื่องจากการขัดแผ่นPARTICLE BOARD โรงงานเหล่านี้ มีการติดตั้งเครื่องดูดฝุ่น เพื่อกำจัดมลภาวะทางอากาศอันอาจจะทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจและฝุ่น ฝุ่นเหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ใหม่ได้ โดยส่วนหนึ่งจะทำเป็นเชื้อเพลิงในขบวนการผลิต อีกส่วนหนึ่งจะนำกลับมาใช้ผลิตแผ่น PARTICLE BOARDใหม่และฝุ่นที่ละเอียดสามารถจำหน่ายให้กับผู้ผลิตธูปได้อีกด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตและภาวะสิ้งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
วัตถุดิบการผลิต
วัตถุดิบที่สำคัญในการผลิต PARTICLE BOARDได้แก่
-ไม้หรือวัสดุที่มีลิกนินหรือ เซลลูโลส(เช่นชานอ้อย)ซึ่งแหล่งวัตถุดิบเหล่านี้หาได้ภายในประเทศ
-ไม้ยางพารา มีมากในแถบภาคใต้และภาคตะวันออก
-ไม้ยูคาลิปตัสพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
-เศษไม้ มีอยู่ทั่วไปจากโรงเลื่อยและโรงงานไม้แปรรูปที่มีอยู่ทั่วประเทศ
-กาว ใช้เป็นตัวประสานให้ชิ้นไม้ประสานกัน โดยใช้กาวชนิดยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์ หรือกาวสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ภายในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อได้จากประเทศใกล้เคียงเช่น มาเลเซีย-WAX และสารเคมีอื่น ๆสามารถจัดซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศ
คุณสมบัติของแผ่นไม้ ( Particle board )
ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดนั้น เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบาสุดในบรรดาไฟเบอร์บอร์ด ซึ่งความแข็งแรงก็น้อยกว่าเอ็มดีเอฟ และฮาร์ดวูด ข้อด้อยอีกอย่างของปาร์ติเกิ้ลบอร์ดคือ ตัวเนื้อไม้มีการขยายตัวได้ง่าย เนื่องจากความชื้นโดยเฉพาะไม้ที่ไม่ได้มีการ ทาสี หรือว่าเคลือบซีลเลอร์ อย่างไรก็ตามปาร์ติเกิ้ลบอร์ดนิยมนำมาใช้ในงานไม้ที่ใช้ในตัวอาคาร แทนที่งานภายนอกอาคารที่มีความชื้นสูง ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดนำมาใช้ตามเคาน์เตอร์ นำมาใช้เป็นฉนวนมีขนาดตั้งแต่
ข้อดีปาร์ติเกิลบอร์ด
- ราคาถูกมาก
- มีน้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก
- เป็นที่นิยมใช้กันในวงกว้าง หาซื้อได้ง่าย
ข้อเสียปาร์ติเกิลบอร์ด
- วัตถุดิบโดยรวม ไม่แข็งแรง
- ไม่สามารถโดนน้ำได้ เพราะอาจจะยุ่ย เปื่อยได้ ที่โดนน้ำได้เป็นเพราะพื้นผิวด้านนอก ที่ปิดทับช่วยเอาไว้
- ไม่สามารถพ่นสีบนตัวงานได้
- ปิดผิว PVC ได้แบบไม่เรียบ เนื่องจากขี้เลื่อยที่นำมาบดอัดมีขนาดไม่เท่ากัน
อาจมีเชื้อราขึ้นได้ ต้องหมั่นคอยดูแล อย่าให้ห้องมีความชื้น
ขนาดมาตรฐานของ ไม้ ( Particle board )
Particle Board คือแผ่นไม้ที่ผลิต จาก การนำไม้ตามธรรมชาติมาบดย่อย เป็นชิ้นขนาดเล็กๆและนำมาอัดเข้ารูปเป็นแผ่นด้วยความร้อน กาวพิเศษ และแรงอัด พร้อมการผ่านกระบวนการทางเคมี เพื่อให้สามารถป้องกันความชื้นและปลวก โดยจะผลิตเป็นแผ่นสำเร็จรูปขนาด 1200 x 2400 มม. และ ขนาด 1800 x 2400 มม. และมีขนาดความหนาต่างๆกัน เช่น ขนาดหนา 3 มม. , 9 มม.,16 มม., 19 มม., เป็นต้น
โดยแผ่นที่ผลิตได้ยังเป็นแผ่นเปลือย ที่จะต้องนำไปปิดผิว ภายนอกก่อนนำไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์
ความหนามาตรฐาน : 9, 12, 15, 16, 18, 19 และ 25 มม.
ขนาดมตารฐาน : 1220 x 2440 มม.
ความหนาแน่น : 160-450 กก./ม³
ประเภทของ ไม้ ( Particle board )
ไม้ปาร์ติเกิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากชิ้นไม้ยางพาราที่ไม่สามารถให้น้ำยางพาราได้แล้ว โดยนำมาขึ้นรูปเป็นแผ่นภายใต้แรงดันและใช้กาวเป็นตัวประสาน แผ่นไม้ปาร์ติเกิลจะมี 3 ชั้น คือ ชั้นผิวบน ชั้นผิวล่าง มีความละเอียด และชั้นไส้ตรงกลาง มีความหยาบกว่า วัตถุดิบที่นำมาผลิตไม้ปาร์ติเกิล ได้แก่ ไม้ยางพาราที่หมดอายุการใช้งานแล้ว
ไม้ปาร์ติเคิลจะเคลือบผิว 4 ประเภท ดังนี้
1. ฟรอยด์ = กระดาษเคลือบด้วยเรซิน (ตามร้านเฟอร์ที่ขายถูก ๆ ทั่ว ๆ ไป) ใช้เล็บกรีดเป็นรอยไม่กันน้ำ
2. ปิดด้วย pvc ถ้าลองแงะดูจะเป็นแผ่นยางแข็ง ๆ กันน้ำได้กรณีเอาแก้วน้ำวางไว้ น้ำหก แต่ไม่กันร้อน
3. เมลามีน ใช้กันทั้วไปราคาสมเหตุสมผล กันน้ำได้ ทั้งร้อน / เย็น
4. ลามิเนต ทนร่อน / เย็น คราบ ทำความสะอาดง่าย
วิธีการดูแลรักษาไม้ Particle board
เฟอร์นิเจอร์ไม้นั้นเป็นวัสดุที่มีราคาแพงเพราะวัตถุดิบคือไม้ซึ่งมีราคาแพงและยังหายากในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงชื่นชอบวัสดุตกแต่งบ้านที่ทำมาจากไม้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้และเครื่องเรือนต่างๆ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม้เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ หรือใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าวัสดุทดแทนประเภทอื่นๆ นอกจากนั้นไม้ยังมีลายที่สวยงามหลากหลาย เพียงแต่ใช้วัสดุเคลือบเงา ไม่จำเป็นต้องทาสีก็ดูสวยงาม
ไม้ยังมีความแข็งแรงคงทนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแต่การที่จะให้ไม้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้นั้นจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาที่ดีและถูกวิธี
1. เครื่องเรือนที่ทำด้วยไม้ต้องไม่วางใกล้แหล่งความร้อนหรือในที่ที่มี อุณหภูมิสูง
2. ไม่วางบนพื้นที่เปียกชื้น และไม่ควรให้ถูกแสงแดด แสงจากดวงโคมหรือแสงสปอตไลท์โดยตรง
3. ควรระวังรักษาไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนเนื้อไม้ และระวังไม่ให้มีน้ำหยดลงบนเนื้อไม้เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำลายความสวยงามของเนื้อไม้และลายไม้ ทำให้ผิวของไม้ซีดจางลง
4. ศัตรูที่สำคัญของไม้ คือ ปลวกและแมลงต่างๆที่กัดกินเนื้อไม้จึงต้องหมั่นตรวจตราดูแลเสมอเพื่อที่จะช่วยให้สามารถรักษา ความสวยงามตามธรรมชาติและให้ไม้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน